...
บริการความสวย
หมวดหมู่
เสริมหน้าอก

ปัจจุบันผู้หญิงได้ให้ความสำคัญกับรูปร่างมากขึ้น การเสริมหน้าอก จึงเป็นศัลยกรรมอันดับต้นๆ ที่ผู้หญิงหลายคนเลือกทำ เพื่อช่วยให้รูปร่างได้สัดส่วนมากขึ้นเพราะมีส่วนโค้งส่วนเว้า และง่ายต่อการแต่งตัว เนื่องจากหน้าอกก็เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่แสดงความเป็นตัวตนของเพศหญิงได้ชัดเจน ปัจจุบันการแพทย์ด้านศัลยกรรมความงามได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทำนมเป็นที่นิยมไม่น้อยไปกว่าการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเลยทีเดียว


การเสริมหน้าอก (ทำนม) โดยใช้ถุงเต้านมเทียม (Breast implant) ทางเมดิควีนส์คลินิกเลือกใช้ของยี่ห้อจากอเมริกา ได้แก่ Mentor โดยเป็นซิลิโคนที่ศัลยแพทย์เชื่อมั่นว่าดีที่สุดสำหรับการเสริมหน้าอก ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้เป็นซิลิโคนแบบเจลแทนถุงน้ำเกลือเนื่องจากมีความปลอดภัยไม่เสี่ยงรั่วซึมในอนาคต สำหรับการผ่าตัดจะเป็นการวางยาสลบด้วยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทาง

เสริมจมูก

การเสริมจมูก (Rhinoplasty) นับว่าเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของคนเอเชีย และโดยเฉพาะคนไทยเองที่นิยมทำจมูกกันอย่างมาก เนื่องจากช่วยสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพให้ดูดี โครงหน้าดูมีมิติมากขึ้น

เสริมจมูกซิลิโคน (Close Rhinoplasty)

การเสริมจมูกด้วยการผ่าตัดแบบธรรมดา (Close Rhinoplasty) โดยแพทย์จะใช้วัสดุสังเคราะห์ในการเสริมจมูก (ทำจมูก) เช่น ซิลิโคน ซึ่งจะผ่าตัดสอดเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัดเล็กๆ ภายในช่องจมูก เป็นเทคนิคที่ทำได้ง่ายและสะดวกใช้เวลาผ่าตัดไม่นานเหมาะกับกรณีที่คนไข้มีรูปทรงจมูกของเดิมที่ดีอยู่แล้วระดับหนึ่ง เช่น ฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป สันจมูกไม่แบบเรียบมากเกินไป รูปทรงจมูกไม่เบี้ยวและยาวหรือสั้นเกินไป เพราะหากจมูกมีความยาวที่เหมาะสมก็สามารถเสริมได้ด้วยซิลิโคน แต่มีข้อจำกัดคือไม่เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้น (Short Nose)

ข้อดี
เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อนมาก เวลาผ่าตัดไม่นาน คนไข้ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ เนื่องจากใช้วิธีการฉีดยาชาเฉพาะที่ ราคาไม่สูงมาก

ข้อเสีย
ไม่เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้นมากเกินไป ไม่สามารถปรับแก้โครงสร้างจมูกได้ทั้งหมดเนื่องจากเป็นการเปิดแผลในรูจมูกเพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

เสริมจมูกด้วยซิลิโคนและกระดูกอ่อนหลังใบหู

การเสริมจมูกด้วยการใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู คืออีกหนึ่งเทคนิคที่ทางการแพทย์เลือกใช้ในการทำจมูก ในกรณีที่คนไข้ที่มีหนังปลายจมูกที่บางมาก เพราะหากใช้ซิลิโคนอย่างเดียวเพื่อเพิ่มปลายจมูก จะเสี่ยงต่อการทะลุได้ จึงต้องใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมาช่วยเสริมรองตำแหน่งปลายจมูกเอาไว้ ซึ่งการใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูจะมีข้อดี คือไม่เป็นสารแปลกปลอม แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ต้องเป็นผู้ที่โครงสร้างจมูกเดิมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้วเพราะเป็นการผ่าตัดแบบ Close Rhinoplasty เปิดแผลในรูจมูกเพียงข้างใดข้างหนึ่ง จึงไม่สามารถปรับโครงสร้างอื่นๆ ภายในจมูกได้มาก หลังจากผ่าตัดแบบเสริมซิลิโคนและกระดูกหลังหูก็จะได้ทรงจมูกที่สวยงามขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับเทคนิคนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินก่อนตามปัญหาเดิมและข้อจำกัดของคนไข้ โดยการผ่าตัดจะต้องมีแผลสองที่คือรูจมูกด้านใดด้านหนึ่งและบริเวณหลังใบหู แพทย์จะให้วิธีการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อระงับความเจ็บก่อนผ่าตัด

การเสริมจมูกแบบปรับโครงสร้างจมูก Nose Reconstruction

เทคนิค Nose Reconstruction คือ การปรับโครงสร้างจมูกใหม่ ซึ่งสามารถปรับโครงสร้างจมูกทุกรูปแบบให้เป็นไปในแบบที่ต้องการได้ และเป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุดในประเทศเกาหลี เพราะจมูกจะดูสวยได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเทคนิคนี้จะใช้วิธีผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก (Open Rhinoplasty) สามารถตกแต่งกระดูกฐานจมูกให้มีขนาดเล็กลง ผ่าตัดปรับรูปร่างปีกจมูกให้สวยงามและเข้ารูปขึ้น ปรับแต่งปลายจมูกให้ดูเรียวเล็ก

​ซึ่งความพิเศษของเทคนิค Nose Reconstruction คือ การยืดปลายจมูกให้โด่งและพุ่งขึ้น ด้วย กระดูกอ่อนกลางจมูก (Septal cartilage) ซึ่งเป็นกระดูกตำแหน่งเดียวในร่างกายที่มีลักษณะแบน ตรง เรียบ และแข็งแรง โดยแพทย์จะผ่าตัดเอา กระดูกอ่อนกลางจมูก ออกมาเพียง 2 ใน 3 เพื่อใช้ในการเสริมบริเวณปลายจมูก (โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อร่างกายในภายหลัง) การใช้กระดูกอ่อนกลางจมูกจะช่วยยืดปลายจมูกให้เรียวยาว สร้างจมูกปลายหยดน้ำที่แท้จริง โดยไม่ต้องใช้การเสริมซิลิโคน เพราะช่วยปรับโครงสร้างจมูกได้จริงและดีที่สุดในขณะนี้

ส่วนบริเวณสันจมูกในบางเคสอาจไม่ต้องเสริมด้วยวัสดุสังเคราะห์ใดๆ คนไข้สามารถใช้วัสดุธรรมชาติจากตัวคนไข้เองได้ เช่น เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อไขมัน และกระดูกอ่อนซี่โครง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมจากการประเมินของแพทย์ แต่หากความสูงของสันจมูกไม่เพียงพอ แพทย์จะเลือกใช้ Gore-Tex ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่าดีที่สุดสำหรับการเพิ่มความโด่งของสันจมูก เนื่องจากร่างกายจะไม่สร้างพังผืดหุ้ม ไม่มีหินปูนเกาะ และไม่กดกระดูกให้เป็นร่องบุ๋มเหมือนวัสดุสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ ทั้งยังสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต โดยไม่ยุบหรือเสื่อมสภาพ
​โดยแพทย์จะใช้ Gore-Tex มาเสริมเฉพาะด้านบนที่เป็นสันจมูกเท่านั้น บริเวณปลายจมูกของคนไข้จะเป็นการเสริมด้วยกระดูกอ่อนกลางจมูกทั้งหมด จึงไม่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาปลายจมูกทะลุในอนาคต ซึ่งต่างกับการเสริมด้วยซิลิโคน + กระดูกอ่อนหลังหู ที่มีลักษณะโค้งนูน ไม่เหมาะกับการนำมาใช้เสริมความยาวบริเวณปลายจมูก เพราะลักษณะที่โค้งนูนนั้นมีผลต่อการเกิดปัญหาปลายจมูกทะลุหลังเสริมจมูกไปแล้วสูงมาก
ทั้งนี้การผ่าตัดด้วยเทคนิค Nose Reconstruction จะเป็นการผ่าตัดด้วยการวางยานอนหลับ

ปาก

การตกแต่งริมฝีปาก เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขริมฝีปากที่หนาผิดปกติให้บางลง นิยมทำในผู้ที่มีริมฝีปากหนามาก หรือยื่นมากผิดปกติ รูปทรงที่นิยมในปัจจุบันคือทรง ปากกระจับ หรือปากทรงปีกนก โดยแพทย์จะผ่าตัดเนื้อเยื่อด้านในออกบางส่วน ซึ่งจะใช้ยาชาเฉพาะที่แล้ว Laser ตัดส่วนเกินออก หลังจากนั้นแพทย์จะเย็บปิดแผลและซ่อนแผลเป็นให้อยู่ในเนื้อเยื่ออ่อนด้านในของริมฝีปาก ทำให้มองไม่เห็นแผลเป็นเวลายิ้ม เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย หลังผ่าตัดแผลจะบวมประมาณ 1 อาทิตย์

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

  • โปรดแจ้งประวัติการแพ้ยา ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบ โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลและแจ้งแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดด้วย
  • ห้ามงดยาควบคุมความดัน ยาควบคุมเบาหวาน รวมถึงยาเพื่อการรักษาโรคประจำตัวเดิม ไม่ต้องอดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ไม่อิ่มเกินไป ควรแปรงฟันให้สะอาดก่อนผ่าตัด
  • งดแอสไพริน (aspirin), ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) และวิตามินอี ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • งดสูบบุหรี่ก่อน-หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์

การดูแลหลังการผ่าตัด และการพักฟื้น

  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด งดการแปรงฟันประมาณ 3 วันแรกหลังการผ่าตัดอย่าใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก
  • และระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรกงดออกกำลังกายที่อาจต้องมีการปะทะ 4 อาทิตย์หลังผ่าตัด
  • ควรทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไปสามารถใช้ลิปสติกได้ 2 อาทิตย์หลังผ่าตัด งดการสูบบุหรี่ 3 อาทิตย์หลังการผ่าตัดดื่มน้ำมากๆ โดยใช้หลอด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 2 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
เสริมคาง

ปัญหารูปหน้าไม่ได้สัดส่วนสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด เสริมคาง ด้วยซิลิโคนเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาคางเล็กหรือคางหลุบเข้าไปข้างใน ทำให้โครงหน้าผิดรูปไม่สวยงาม โดยแพทย์จะใส่ซิลิโคนทางการแพทย์ที่เตรียมรูปทรงให้รับกับใบหน้าไว้แล้วที่บริเวณคางของคนไข้
การ เสริมคาง ด้วยซิลิโคน อาจทำได้ 2 วิธี คือ
1.การเปิดแผลภายนอก แต่ความนิยมจะน้อยกว่าเพราะมักจะหลงเหลือแผลเป็นเอาไว้ หลังจากที่แผลหายสนิทแล้วโดยแพทย์จะเปิดแผลที่บริเวณใต้คาง
2.การเปิดแผลในปาก โดยเปิดแผลที่ด้านในของปาก ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลก็จะประมาณ 2 -3 ซม. ตรงบริเวณของเหงือก กับริมฝีปากล่างซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เพราะจะทำให้ไม่เห็นแผลเป็นที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เพราะการทำผ่าตัดในช่องปาก


ศัลยแพทย์จะแนะนำวิธีทำความสะอาดบาดแผลภายในช่องปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ คนไข้จะต้องรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่ายและหลีกเลี่ยงการขยับปากในช่วงแรกหลังผ่าตัด งดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อบาดแผล เช่น การวิ่ง งานบ้าน การมีเพศสัมพันธ์ ภายในช่วง 2 ถึง 3 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด คนไข้สามารถกลับมาประกอบกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังผ่าตัดแล้วประมาณ 10 วัน

การรดูแลหลัง เสริมคาง ด้วยซิลิโคน

  • ในช่วง 1-2 วันแรก ให้ประคบเย็นบริเวณคางบ่อย ๆ
  • ดูแลแผลในปาก และงดทานอาหารที่มีลักษณะแข็งหรือที่ต้องใช้แรงบดเคี้ยว
  • ดื่มน้ำโดยใช้หลอด ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจั
  • บ้วนปากบ่อย ๆ ด้วยน้ำยาบ้วนปาก น้ำเกลือหรือน้ำสะอาด
  • อย่าใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บ และระวังอย่างยิ้มกว้างมาก
  • ก่อนรับประทานผัก ผลไม้ควรล้างให้สะอาด ไม่ควรทานปลาดิบหรือเนื้อสุกๆ ดิบๆ ซึ่งมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  • 1 สัปดาห์หลังผ่าตัดแพทย์จะนัดมาตรวจอาการ และตรวจซ้ำหลังจากนั้นอีก 1 เดือน
  • ในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกบริเวณคาง
  • หลังการรักษาประมาณ 1-2 เดือน อาการบวมจะยุบลง และได้รูปทรงของคางใหม่ โดยแท่งซิลิโคนจะเกาะติดแน่นกับขอบกระดูกและไม่ขยับเขยื้อน นอกจากจะโดนกระแทกอย่างแรง
ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
แก้ไขหูกาง

“หู” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกายอวัยวะหนึ่ง เพราะหูนั้นมีหน้าที่ในการรับเสียงเพื่อให้เกิดการสื่อสาร ซึ่งนอกจากหน้าที่ของหูที่สำคัญแล้ว องค์ประกอบของหูก็สำคัญเช่นกัน ลักษณะของหูที่ดีนั้นต้องเหมาะสมกับรูปหน้าของบุคคลนั้นๆ ไม่เล็กเกินไป หรือไม่ใหญ่จนเกินไป และที่สำคัญนั้นใบหูทั้งสองข้างควรจะมีขนาดเท่ากันและกางออกอยู่ในองศาที่พอเหมาะ ซึ่งในบางบุคคลที่มีลักษณะความผิดปกติของใบหู ไม่ว่าจะเป็นขนาดและรูปร่างที่ไม่สมส่วน หรือกางออกมากเกินไป อันเนื่องมาจากพันธุกรรมหรือผลพวงจากอุบัติเหตุในอดีต นอกจากทำให้ใบหูดูไม่เข้ากับรูปหน้าของบุคคลนั้นๆ จนทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง

ผู้ที่เหมาะสมต่อการศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

การศัลยกรรมแก้ไขหูกางเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีปัญหาองค์ประกอบของใบหูทั้งสองข้างที่กางออกมากเกินไปจนทำให้ใบหูดูเด่นเกินไปจนทำให้ตัวบุคคลนั้นๆ รู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตนเอง ทั้งนี้นอกจากอาการกางของหูแล้ว ก็สามารถตกแต่งและแก้ไขขนาดและรูปร่างร่างของใบหูที่ดูไม่สมส่วนให้ดีขึ้นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและการประเมินของแพทย์สมควรผ่าตัดแก้ไขหรือไม่

วิธีการศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

การศัลยกรรมใบหูนั้นมีวิธีขั้นตอนการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ก็จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบริเวณที่ผ่าตัดนั้นเป็นบริเวณหนังศีรษะที่มีเส้นประสาทค่อนข้างเยอะ และโครงสร้างของกระดูกอ่อน

ศัลยแพทย์จะทำการออกแบบโครงสร้างใบหูให้รับกับใบหน้า และทำการฉีดยาชาบริเวณใบหู ก่อนจะทำแนวเส้นผ่าตัดที่ด้านหลังใบหู

หลังยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลบริเวณหน้าหรือหลังใบหูของผู้เข้ารับการรักษา (โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะทำการผ่าตัดหลังใบหู เพราะจะเห็นรอยแผลเป็นหลังผ่าตัดได้ยาก เนื่องจากแผลจะซ่อนอยู่บริเวณหลังใบหู และมีขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม. เท่านั้น)

ผิวหนังส่วนหนึ่งจะถูกตัดออกและทำการดึงผิวหนังบริเวณแนวเส้นผ่าตัดแนบเข้าหากันและเย็บให้ติดกันเพื่อเป็นการดึงใบหูให้เข้ามาแนบชิดศีรษะมากขึ้น และอาจจะมีการปรับโครงสร้างกระดูกอ่อนร่วมด้วย

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

  • แจ้งข้อมูลหากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือหากมีอาการเจ็บป่วยก่อนวันผ่าตัด กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันผ่าตัดอย่างน้อย 1 – 3 วัน
  • งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • ควรงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่าน้อง 7 – 14 วันก่อนผ่าตัด
  • งดใส่คอนแทคเลนส์, แต่งหน้า, ทาเล็บ, ทาโลชั่น, หรือใส่เครื่องประดับและของมีค่าในวันผ่าตัด
  • วันผ่าตัดแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย สะดวกต่อการถอดและสวมใส่
  • ควรมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วยในวันผ่าตัด

การดูแลหลังการศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

หลังผ่าตัดผู้เข้ารับการรักษาจำเป็นต้องใส่ Face Support รัดบริเวณใบหูตลอดเวลาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ (หลัง 2 สัปดาห์แล้ว ผู้เข้ารับการรักษาสามารถใส่เฉพาะเวลานอนได้ แต่ควรใส่อย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน)

  • หลังผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลอย่างน้อย 3 วันขึ้นไป (สามารถสระผมได้ 3 วันขึ้นไปหลังผ่าตัด แต่ต้องเช็ดทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดให้แห้ง หากผ้ากอซปิดแผลเปียก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที)
  • หลังการผ่าตัดควรงดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องมีการกระทบกระเทือนศีรษะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
  • หลังการผ่าตัดงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
  • หลังการผ่าตัดหากมีเลือดออกผิดปกติ ควรเข้ามาพบแพทย์ทันที

แพทย์จะนัดผู้เข้ารับการรักษาเพื่อติดตามผลการผ่าตัด (Follow-Up) ภายในระยะเวลา 7 วัน เพื่อตัดไหมและตรวจเช็คผลลัพธ์ในช่วงแรก และจะนัดเข้ามาติดตามผลอย่างต่อเนื่องอีกภายในระยะเวลา 14วัน, 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี เพื่อดูความปกติของใบหู 

ศัลยกรรมหน้าผาก

ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก สำคัญยังไง??

หน้าผากเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถส่งเสริมใบหน้าให้ดูงดงามขึ้นได้ หน้าผากที่โค้งโหนกนูนได้สัดส่วน และสมดุลจะทำให้สันจมูกดูได้รูปน่าชวนมองมากขึ้น การปรับหน้าผากให้ได้รูปทำได้รูปทำได้โดยการ ผ่าตัดเสริมหน้าผากที่แบนโดยการใช้ซิลิโคนแผ่นที่ถูกหล่อขึ้นมาเป็นพิเศษโดยใช้โมเดลจำลองกะโหลกของคนไข้นั้น ๆ (3D Customized Silicone Implant) หรือใช้ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป (Preform Silicone) ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือ หน้าผากที่ดูมีมิติ รับกับรูปหน้าและสันจมูกอีกทั้งผลลัพธ์ยังคงอยู่ถาวร โดยที่ซิลิโคนไม่มีการเปลี่ยนรูป และดูเป็นธรรมชาติ

วัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าผาก

1.ซิลิโคนเฉพาะบุคคล (3D Customized Silicone Implant)
ในการ ผ่าตัดเสริมหน้าผาก แผ่นซิลิโคนที่นำมาใช้จะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคนไข้นั้นๆ โดยซิลิโคนมีความปลอดภัยสูงได้รับรองจาก FDA

2.ซิลิโคนสำเร็จรูป (Preform Silicone)
เป็นการเสริมหน้าผากโดยใช้ซิลิโคนที่ขึ้นรูปไว้แล้วตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งมีหลายขนาด แพทย์สามารถเลือกให้เข้ากับคนไข้แต่ละบุคคล มีข้อดีคือราคาถูกกว่าและสามารคถผ่าตัดได้ทันทีโดยไม่ต้องทำ CT scan เพื่อส่งข้อมูลไปขึ้นรูปซิลิโคนหน้าผากใหม่

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าผาก

  1. วิสัญญีแพทย์จะวางยานอนหลับให้กับคนไข้
  2. แพทย์ผ่าตัดเปิดแผลที่ศีรษะห่างจากไรผมประมาณ 1-2 ซม. เปิดแผลยาวประมาณ 5 ซม.
  3. เปิดเลาะหนังศีรษะจนถึงโหนกคิ้ว ใส่แผ่นซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าผากแล้วเย็บปิด โดยไม่มีการโกนผม
  4. การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  5. คนไข้สามารถเข้ามาตัดไหมได้ใน 1 สัปดาห์

การดูแลหลังผ่าตัดหน้าผาก

  1. ระยะเวลาในการฟักฟื้น 2-3 วัน
  2. ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก งดทำกิจกรรมหนัก
  3. ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
  4. ภายใน 1 สัปดาห์แพทย์นัดติดตามผลการรักษา
ตาสองชั้น

สำหรับท่านที่มองหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำตาสองชั้นอยู่ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าตาที่สวยงามไม่ใช่เพียงแค่ตาโตหรือตาสองชั้นเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง โดยองค์ประกอบที่ว่านี้ได้แก่
(1) ระยะคิ้วที่กว้างได้สัดส่วน
(2) หัวตาต้องเปิด ทำให้มองเห็นเต็มลูกตา
(3) หางตาควรชี้ขึ้น มีลักษณะคล้ายตาหงส์
(4) ตาไม่ลึก หมายถึง ดวงตาต้องเสมอกับขอบกระดูกเบ้าตาหรือโปนออกมาด้านหน้านิดๆ
ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์และน่ามอง เรียกว่าเป็น “ตาโมเดล” และเป็นหลักการในการทำศัลยกรรมตาให้กับคนที่มีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับตาทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นตาตก ตาปรือ ตาชั้นเดียว ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือหัวตาปิด เป็นต้น

องค์ประกอบตาสวย

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของการทำตาให้สวยมีลักษณะเหมือนกับตาโมเดลก็คือ อย่างน้อยคนไข้ต้องมีองค์ประกอบของตาที่เป็นสัดส่วนที่ดี (Good Proportion) 90 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่า ระยะคิ้วถึงตาจะต้องเปิดกว้างพอสมควร หัวตาต้องเปิดเห็นเต็มลูกตา องศาของแกนตาต้องชี้ขึ้น ไม่ชี้ลง และตาต้องไม่ลึก โดยมีวิธีการตรวจง่ายๆ คือการนำปากกามาทาบตาไว้ ถ้าคนที่ตาปกติจะลืมตาไม่ได้ แต่ถ้าตาลึกจะลืมตาได้เนื่องจากดวงตาอยู่ลึก ไม่เสมอกับขอบกระดูกเบ้าตา ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตาไม่สวยคนไทยประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์พบว่ามีตาลึก จะเห็นได้ว่าปัญหาบริเวณตามีหลากหลาย ซึ่งเดี๋ยวนี้การทำศัลยกรรมแก้ไขตาที่ผิดปกติให้กลับมามีความสวยงามสามารถทำได้ง่ายและปลอดภัยโดยใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดไม่นาน เพราะไม่ใช่แค่รูปหน้าที่ได้สัดส่วนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่มีผลต่อการมองเห็น แต่การมีดวงตาที่สวยงามได้สัดส่วนนับว่าเป็นเสน่ห์น่าดึงดูดอย่างหนึ่งและเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เราดูแตกต่างจากคนอื่นนั่นเอง

ขั้นตอนการผ่าตัดตาสองชั้น

aaa

 

กำจัดถุงใต้ตา

ปัญหาดวงตายอดนิยมอีกอย่างหนึ่งคือถุงใต้ตา โดยจะมีลักษณะเป็นถุงนูนออกมาบริเวณใต้ดวงตาทำให้ดูบุคลิกภาพไม่ดีและทำให้ดูมีอายุ โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งผู้ที่อายุไม่มากเนื่องจากเป็นกรรมพันธุ์ หรือเกิดในผู้ที่มีอายุมากซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดควบคู่กับอาการหนังใต้ตาหย่อน ทั้งนี้สามารถแก้ไขได้ดังนี้
โดยทั่วไปการผ่าตัดถุงใต้ตาจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ คือ 1. แผลผ่าตัดอยู่ภายในเปลือกตาซึ่งจะมองไม่เห็นแผลจากภายนอกเหมาะกับคนที่ไขมันไม่มากนัก ไม่ต้องเอาผิวหนังส่วนเกินออก อีกวิธีคือ 2.แผลผ่าตัดอยู่นอกขอบตาซึ่งสามารถเอาไขมันออกได้สะดวกและสามารถตัดผิวหนังส่วนเกินออกได้ ซึ่งการจะเลือกใช้วิธีการใดนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาที่เป็นการวิเคราะห์จากแพทย์และความต้องการของคนไข้เป็นสำคัญ คนไข้ควรมีเวลาทีจะพูดคุยกับแพทย์ผู้ที่ทำการผ่าตัดอย่างละเอียดถึงความต้องการของตน

การดูแลหลังผ่าตัดถุงใต้ตา

หลังการผ่าตัด มักจะมีการบวมช้ำตามปกติไม่มากนักโดยจะบวมช้ำมากที่สุดใน1-3วันแรกหลังผ่าตัดหลังจากนั้นจะค่อยๆยุบลงตามลำดับ จะเข้ารูปมากขึ้นเมื่อครบ2-3อาทิตย์ และจะยุบบวมเต็มที่ประมาณ2-3เดือนขึ้นไป

วิธีการดูแลหลังการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา

  1. หลังการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาควรประคบเย็นบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา ในช่วง 2 วันแรก
  2. หลังการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาคนไข้ควรนอนยกศีรษะสูงไว้ เพื่อที่จะช่วยลดอาการบวมจากการคั่งของเลือด
  3. หลังการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาคนไข้ควรรับประทานยาอักเสบ ยาลดบวม และทายาขี้ผึ้งเคลือบที่แผลตามที่แพทย์สั่ง
  4. หลังการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาควรสวมแว่น หากจำเป็นที่จะต้องใส่คอนแทคเลนส์ ให้เปลี่ยนมาใส่แว่นแทนในช่วงสัปดาห์แรก หรือจนกว่าอาการบวมจะหาย เพราะการใส่คอนแทคเลนส์อาจทำให้แผลผ่าตัดแยก

ติดต่อ