เมโสแฟต
เป็นการฉีดตัวยาเฉพาะเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน ลดเซลล์ลูไลท์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อย หลังการสลายไขมันเมื่อตัวยาถูกฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน จะไปทำลาย เซลล์ไขมัน เมื่อเซลล์ไขมันตายก็จะกลายเป็นของเสีย ซึ่งของเสียจะถูก ขับออกทางระบบน้ำเหลือง
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแบบไหนบ้าง ?
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันบริเวณใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง ที่ทำให้รูปหน้าไม่เรียวและดูหน้ากลม และต้องการกำจัดไขมัน ปรับรูป หน้าให้เล็กลง
ขั้นตอนการรักษา
- แพทย์จะฉีดยาเข้าไปในชั้นไขมันหลายๆ จุดและแต่ละจุดมีระยะห่างสม่ำเสมอกันทั่วบริเวณที่ต้องการรักษา
- หลังฉีดทันทีจะมีอาการบวมและจะบวมมากที่สุดในวันรุ่งขึ้น โดยอาการบวมจะค่อยๆ ลดลงประมาณ 2-5 วัน ซึ่งผิวจะเริ่มกระชับในสัปดาห์ที่ 5 และกระชับ ได้มากที่สุดในสัปดาห์ที่ 8
- ต้องทำการเข้ามาฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ข้อปฎิบัติหลังการฉีด
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพราะร่างกายจะกำจัดไขมันส่วนใหญ่ออกทางปัสสาวะ ดังนั้นยิ่งดื่มน้ำมากเท่าไหร่ ไขมันจะถูกกำจัดออกไปมากและเร็วยิ่งขึ้น
- ควรออกกำลังกายเบา ๆ ครั้งละ 30 นาทีประมาณ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น
- เลี่ยงอาหารรสเค็ม หรืออาหารที่มีส่วนผสมของเกลือ อีกทั้งควรเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารจำพวก แป้ง น้ำตาลและไขมันให้น้อยลง เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของไขมันอีกครั้ง
ฟิลเลอร์
บริเวณที่นิยมฉีด Filler
- เติมเต็มให้คางดูยาวได้รูปมากขึ้น
- เติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม
- เติมเต็มใต้ตาให้ดูไม่ลึก
- เติมเต็มร่องแก้มให้เรียบเนียน
- เติมเต็มบริเวณใบหน้าส่วนต่างๆให้ดูเต็มอิ่ม
- ในกรณีที่ไม่ต้องการทำศัลยกรรมจมูกสามารถนำมาเติมเต็มจมูกให้ดูมีมิติเพิ่มขึ้นได้
ข้อความรู้เกี่ยวกับ Filler
ผลการรักษา
หลังฉีดสามารถเห็นผลได้ทันที โดยทั่วไปแพทย์จะทายาชาที่บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ หรือในบางกรณี แพทย์อาจใช้วิธีประคบน้ำแข็งก่อนทำการรักษา ซึ่งใช้เวลาฉีด 10 – 20 นาที โดยคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลยหลังรับการรักษาไม่ต้องพักฟื้น
อาการข้างเคียง
อาจมีอาการบวมเป็นการชั่วคราว (ส่วนใหญ่ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ที่ริมฝีปาก) แดง กดเจ็บ และฟกช้ำ การประคบเย็นสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ อาการบวมแดงมักจะหายไปภายใน 24 – 48 ชั่วโมง และกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติได้ทันทีโดยใช้เครื่องสำอางช่วยปกปิด
การดูแลหลังการรักษา
- 48 ชั่วโมงแรก ไม่ควรออกกำลังกายให้เหงื่อออกมาก หรือไปตากแดดร้อนๆ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงมากขึ้นบริเวณที่ฉีด
- หลังฉีดทันทีไม่ควรจับ ลูบคลำ นวด หรือปั้นเอง ในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
- หลังฉีดควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากโดยเฉพาะ 4 วันแรก ของหลังฉีด Filler ประมาณ 8-46 แก้ว เพราะ Filler เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมากๆ จะทำให้ Filler ที่ทำการเติมเต็มเข้าไปนั้นอยู่ได้นานขึ้น และช่วยให้น้ำจับกับโมเลกุล ของ Filler ที่ฉีด ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ความร้อนบริเวณที่ฉีด 2 สัปดาห์
ไขข้อข้องใจในการฉีด filler ฉีดอย่างไรให้สวยและปลอดภัย
เติมไขมันหน้า
การปรับรูปหน้าด้วยไขมันสเต็มเซลล์ เป็นการฉีดไขมันตนเองที่นำมาจากส่วนอื่นของร่างกาย โดยผ่านกระบวนการคัดแยกเซลล์ไขมันที่เหมาะสม ด้วยการสกัดเอาไขมันจากร่างกายร่วมกับสกัดไขมันสเต็มเซลล์เข้มข้น (Platelet Rich Plasma) นำมาผสมรวมกันแล้วฉีดกลับไปแก้ไขส่วนที่ต้องการ ซึ่งไขมันที่มีสเต็มเซลล์อยู่จะมีคุณสมบัติการคงสภาพที่ดีกว่า การฉีดไขมันปกติ เข้าไปในร่างกาย ไม่เกิดการต่อต้าน เพราะเป็นไขมันของตัวเอง ทำให้คนไข้ไม่เกิดอาการแพ้
นวัตกรรมสกัดแยกไขมัน. และสเต็มเซลล์ ซึ่งจะมาจาก 2 ส่วนด้วยกัน คือ
1. สเต็มเซลล์จากไขมันของคนไข้
การศัลยกรรมเติมเต็มด้วยสเต็มเซลล์จากไขมัน ที่มีปริมาณเซลล์ต้นกำเนิดจำนวนมาก ไปใช้ในการเสริมความงามบนใบหน้า ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ของใบหน้าและร่างกาย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้ยาวนาน ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพ้สิ่งแปลกปลอม
2. สเต็มเซลล์จากพลาสม่าหรือเลือดของคนไข้เอง (PRP)
PRP หรือ (Platelet-Rich Plasma) เป็นนวัตกรรมการแพทย์ที่นำเลือดของคนไข้เองมาใช้แก้ปัญหาทางด้านผิวพรรณความงาม ซึ่งในเกร็ดเลือดจะมีสาร Growth Factor ที่มีความเข้มข้นสูงมาก เมื่อฉีดเข้าไปที่ร่างกายอีกครั้ง จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้นเซลล์ให้เกิดการเติบโตเร็วกว่าปกติ ช่วยซ่อมแซมผิวหนังส่วนที่ได้รับความเสียหาย ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ทำให้คุณกลับมามีผิวที่ดูอ่อนวัยอีกครั้ง
ผู้ที่เหมาะต่อการศัลยกรรมเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง
การศัลยกรรมเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมันตัวเองนั้นเหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหารูปหน้าหรือสรีระร่างกายที่ไม่สมส่วน ซึ่งข้อดีของการฉีดเซลล์ไขมันตัวเองนั้นสามารถเติมเต็มจุดบกพร่องบนใบหน้าและสัดส่วนตามร่างกาย โดยจุดที่ฉีดเซลล์ไขมันตัวเองในแต่ละจุดนั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดูออกมาเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงยังทำให้ผิวพรรณดูสดใสเต่งตึง ย้อนวัย
เนื่องจากเซลล์ที่แฝงตัวอยู่ในเซลล์ไขมันที่เรียกว่า Fat Stem Cells เมื่อถูกฉีดเข้าไปยังจุดต่างๆ บนใบหน้าและสัดส่วนตามร่างกายแต่ละจุดนั้น เซลล์เหล่านี้จะเข้าไปซ่อมแซมเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพรอบๆ บริเวณที่ทำการฉีดเซลล์ไขมัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถสลายตัวเองได้ โดยปริมาณที่ถูกฉีดเข้าไป 100% หลังจากสลายตัวแล้วจะเหลืออยู่ประมาณ 60 – 80 % ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำของผู้ที่เข้ารับการรักษาและความแข็งแรงของเซลล์ไขมันของผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยเช่นกัน
วิธีการศัลยกรรมเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง
การศัลยกรรมเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมันตัวเองนั้นปัจจุบันมีเพียงวิธีเดียว แต่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 ผู้เข้ารับการรักษาต้องเข้ารับการดูดไขมันในบริเวณที่มีไขมันสะสมเพียงพอ ส่วนใหญ่แล้วมักนิยมบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา ต่างกันออกไปแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสม โดยจะใช้เทคนิคการดูดไขมันแบบไม่ทำลายเซลล์ไขมัน
ขั้นตอนที่ 2 ไขมันที่ถูกดูดออกมาจะถูกนำไปปั่นเพื่อแยกและคัดแต่เซลล์ไขมันออกมาเท่านั้น เพื่อนำไปเตรียมฉีดบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง
- แจ้งข้อมูลหากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือหากมีอาการเจ็บป่วยก่อนวันผ่าตัด กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันทำอย่างน้อย 1 – 3 วัน
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ ก่อนทำ
- ควรงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7 – 14 วัน ก่อนทำ
- งดใส่คอนแทคเลนส์, แต่งหน้า, ทาเล็บ, ทาโลชั่น, หรือใส่เครื่องประดับและของมีค่าในวันทำ
- วันทำแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย สะดวกต่อการถอดและสวมใส่
- ควรมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วยในวันทำ
การดูแลหลังศัลยกรรมเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง
- หลังการทำทันที่ไม่ควรจับ ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีดเซลล์ไขมันตัวเอง เนื่องจากอาจมีผลต่อการเคลื่อนตัวของตำแหน่งเซลล์ไขมันได้
- หลังการทำควรนอนหมอนสูงกว่าปกติอย่างน้อย 3 วันขึ้นไป
- หลังการทำสามารถทาครีมบำรุงผิวพรรณและแต่งหน้าภายหลังการรักษา 1 – 2 วัน
- หลังการทำควรงดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องมีการกระทบกระเทือนบริเวณที่ฉีดเซลล์ไขมัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
- หลังการทำหากพบว่าผิวหนังบริเวณที่ฉีดเซลล์ไขมันมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นเกิน 1 สัปดาห์ ควรเข้ามาพบแพทย์ทันที
- หลังการทำควรดูแลแผลให้แห้งอยู่เสมอ ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ หากแผลเปียกน้ำควรรีบใช้ผ้าสะอาดซับแผลให้แห้งทุกครั้ง
- หลังการทำงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
- หลังการทำต้องรับประทานยาแก้อักเสบและยาลดบวมตามที่แพทย์จัดให้ ในกรณีที่มีอาการปวดสามารถซื้อยาแก้ปวดมารับประทานเองได้
- ภายใน 1 เดือนแรกควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น งดการอบไอน้ำ ซาวน่า งดการทำ Laser ทุกชนิด หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความร้อนกระทบบริเวณที่ฉีดเซลล์ไขมัน เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้มีผลต่อการเคลื่อนตัวของตำแหน่งเซลล์ไขมันได้หรืออาจทำให้เซลล์ไขมันเกิดการสลายตัวได้ (สำหรับความร้อนที่สามารถโดนได้คือ ความร้อนจากไดร์เป่าผมและแสงแดดที่ไม่แรงจนเกินไป)
ร้อยไหม
“ ร้อยไหม ” หนึ่งในเทคโนโลยีเสริมความงามที่ช่วยให้คุณดูอ่อนกว่าวัย ด้วยการยกกระชับผิวให้เต่งตึง โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ซึ่งแน่นอนว่า เราทุกคนโดยเฉพาะคุณสาวๆ ต่างต้องการให้ตนเองดูดี
ดังนั้น เทคนิคเสริมความงามด้วยการร้อยไหม จึงค่อนข้างได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะมีค่าใช้จ่ายไม่สูง
ฉีดสารสลายกล้ามเนื้อ(Botulinum Toxin)
ที่ Mediqueen clinic มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เกี่ยวกับการฉีด Botulinum Toxin เพื่อลดกรามทำให้หน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย V-Shape แพทย์จะเป็นผู้ตรวจสภาพผิวก่อนฉีด Botulinum Toxin
จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย หลังฉีด Botulinum Toxin แล้ว ประมาณ 4-7 วัน ริ้วรอยต่างๆ ก็จะเลือนหาย ผิวเรียบตึงดูอ่อนเยาว์ กรามจะดูเล็กลง หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด